Be love วาดฝันปันรัก - นิยาย Be love วาดฝันปันรัก : Dek-D.com - Writer
×

    Be love วาดฝันปันรัก

    ชีวิตที่ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้ฉันต้องดิ้นลนไปให้สุดทางของชีวิต โดยมี 'เขา' เจ้านายแสนใจดีและอบอุ่นที่เป็นเสมือนแรงบรรดาลใจทำให้ฉันวาดฝันชีวิตของตัวเองและดำเนินไปได้ในทุกวัน

    ผู้เข้าชมรวม

    213

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    213

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  10 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 มี.ค. 66 / 21:58 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Be love วาดฝันปันรัก

    เซนท์ / เนส 

    เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนฟาน จาก Be love แค่เธอ 

    “พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน

    ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

    หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ

    “ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

    “คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”

    “ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”

    “พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง

    “ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก

    “สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”

    “หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

    หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด

    “นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง“พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน

    ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

    หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ

    “ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

    “คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”

    “ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”

    “พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง

    “ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก

    “สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”

    “หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

    หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด

    “นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง“พอได้แล้วน่า” บอสที่คงทนไม่ได้กับอาการมึนเมาของฉันเดินเข้ามาแย่งแก้วที่ฉันถืออยู่ในมือไปถือไว้เอง หากแต่นิสัยถ้าได้ดื่มจนกรึ่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ของฉัน ก็ทำให้ฉันใจกล้ามากพอที่ชิงแก้วนั้นกลับมายกซดรวดเดียวหมดแก้วได้อย่างไม่เกรงกลัวสายตาคมดุที่จ้องมายังฉันอย่างดุดัน

    ตอนนี้บอสตรงหน้าไม่มีวี่แววใจดีอย่างที่เคยเห็น ท่าทางเขาดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

    หากแต่ฉันหาสนใจไม่ ฉันมองหน้าบอสที่ทำหน้ายักษ์ใส่อย่างไม่เกรงกลัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันสะสมไปมากโขในตัวทำให้ฉันยิ้มสู้ได้อย่างกล้าหาญ ภาพคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังมีควันออกมาจากรูหูทั้งสองข้างทำเอาฉันยิ้มขำ

    “ทำหน้ามุ่ยแบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบเเฮะ” ฉันเผลอพูดออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

    “คุณเนสคุณเมามากแล้วนะ”

    “ไม่เมา นี่คือไม่มาวววว”

    “พอได้แล้ว” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำเอาฉันต้องปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะเห็นว่าสุดหล่อของฉันกำลังย่นคิ้วใส่ด้วยอย่างมึนตึง

    “ไม่ได้ๆ แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วฉันก็ดันตัวเขาให้ออกห่าง ก่อนจะหันไปหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมากระดกลงคออีกหลายอึก

    “สภาพคุณไม่ไหวแล้วนะ”

    “หวายยยย” แล้วฉันก็โยกร่างกายไปตามเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น ราวกับอยู่ในผับในบาร์ตามอารมณ์มึนเมาของตัวเอง ฉันไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่รู้จักการเที่ยวอะไรแบบนี้ ตรงกันข้ามฉันเป็นสาวมั่นที่ชอบบุกผับบุกบาร์ตามเวลาและโอกาสที่จะได้ไป อย่างเช่นนัดเจอเพื่อนเก่าหรือไปเที่ยวแก้เบื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

    หากแต่ครั้งนี้ฉันกลับลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไม่ได้กำลังมาเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่กำลังมาทำงานกับเจ้านายที่ไม่แม้แต่จะสนิทด้วยสักนิด

    “นี่คุณ!” แล้วสติฉันจะดับวูบ เห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่เลือนรางกำลังพุ่งมาหาฉันก่อนที่ภาพจะตัดลง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น